ลำโพงคอมเสียงดี มีติดโต๊ะคอมเอาไว้ฟังเพลงให้ฟินหู ดูหนังเรื่องโปรดให้สะใจ
หลังจากสู้กับงานที่เรารัก ถนนหนทางที่ไม่เป็นใจทั้งขาไปและกลับมาบ้านแล้ว หลายคนก็อยากเปิดเพลงหรือหนังเรื่องที่ชอบดูให้มีความสุข ถ้ามีลำโพงคอมเสียงดีสักชุดติดห้องเอาไว้ยิ่งเสริมอรรถรส เติมความสุขให้อิ่มหูมีความสุขยิ่งขึ้น แถมราคาของลำโพงคอมเสียงดีสักตัวในปี 2023 นี้ก็ไม่แพงมาก แค่หลักพันต้นก็น่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้ส่วนใหญ่ได้สบายๆ แถมลำโพงบางรุ่นก็ยังมีหรือต่อ Subowoofer เพิ่มให้เสียงดีขึ้นได้อีก ถูกใจคนที่อยากเริ่มเล่นเครื่องเสียงอย่างแน่นอน
แต่นอกจากรู้ว่ามีรุ่นไหนน่าซื้อแล้ว ถ้ารู้วิธีการเลือกลำโพงคอมว่าต้องดูสเปคอย่างไรและอ่านรีวิวประกอบ จะรู้ว่าลำโพงแต่ละตัวนอกจากจำนวนดอกลำโพงตรงหน้าแล้ว ยังมีรายละเอียดอื่นอีกหลายอย่างไม่ว่าจะกำลังขับ, พอร์ตเชื่อมต่อ, แชนแนลเสียง, ชิป DSP ฯลฯ อีกหลายเรื่องให้คิดด้วย ซึ่งวิธีการเลือกลำโพงฉบับรวบรัด ทั้งวิธีดูสเปคและรายละเอียดลำโพงสามารถคลิ๊กอ่านได้ในลิ้งค์ด้านล่างนี้เลย
สรุปสเปค 7 ลำโพงคอมเสียงดี ฟังเพลงอิ่มหูดูหนังสะใจ!
สเปคลำโพงคอมเสียงดี | ขนาด น้ำหนัก | ค่าตอบสนอง ความถี่ กำลังขับ | พอร์ตเชื่อมต่อ | ชุดควบคุม | ราคา (บาท) |
Audio Technica AT-SP95 | – ซ้าย 300 กรัม ขวา 335 กรัม | – 2+2 วัตต์ RMS | USB AUX x 2 | ลูกบิดปรับเสียง และปิดลำโพง | 1,288 |
CREATIVE Pebble Plus 2.1 | ข้างละ 122 x 116 x 115 มม. Subwoofer 150 x 195 x 202 มม. ซ้าย 300 กรัม ขวา 340 กรัม Subwoofer 1.05 กก. | 50Hz~20kHz 4~8 วัตต์ RMS | USB Line in RCA | ลูกบิดหน้าลำโพง | 1,450 |
Edifier R1380DB | ข้างละ 152 x 200 x 241 มม. รวม 5.53 กิโลกรัม | 55Hz~20kHz 42 วัตต์ RMS (21+21 วัตต์) | Line In Optical Coaxial Bluetooth 5.1 | ลูกบิดปรับ Volume / Bass / Treble รีโมต | 4,290 |
PreSonus Eris E 3.5 BT | ข้างละ 210 x 141 x 162 มม. ข้างละ 2.9 กิโลกรัม รวม 5.8 กิโลกรัม | 80Hz~20kHz 50 วัตต์ RMS (25+25 วัตต์) | Stereo 1/8″ x 1 Balanced 1/4″ x 2 Unbalanced RCA x 2 Bluetooth 5.0 | ลูกบิดปรับ High, Low | 6,490 |
Klipsch ProMedia 2.1 BT | ลำโพงข้างละ 21.59 x 10.67 x 14.4 มม. Subwoofer 241 x 249 x 259 มม. ลำโพงข้างละ 0.95 กิโลกรัม Subwoofer 5 กิโลกรัม | 35Hz~22kHz 100 วัตต์ RMS (200 วัตต์ Peak, สูงสุด 260 วัตต์ Peak ระยะสั้น) | AUX Bluetooth 2.0 VGA TSL | ลูกบิดปรับ Volume Subwoofer | 9,900 |
Harman Kardon Soundstick 4 | ข้างละ 271 x 84 x 84 มม. Subwoofer ขนาด 231 x 276 x 231 มม. 4.4 กิโลกรัม | 40Hz~20kHz 140 วัตต์ RMS | Bluetooth 4.2 | ปุ่มควบคุมบนตัวลำโพง | 10,999 |
Klipsch The Fives Powered | ข้างละ 505 x 431 x 335 มม. รวม 13 กิโลกรัม | 50Hz~25kHz 160 วัตต์ RMS (320 วัตต์ Peak) | HDMI USB-B USB-A RCA Input RCA Output AUX, Proprietary Input Proprietary Output Bluetooth | ลูกบิดปรับเสียงและเปลี่ยนโหมดการเชื่อมต่อ รีโมต | 27,999 |
7 ลำโพงคอมเสียงดี น่ามีติดโต๊ะคอม ดูหนังเจ๋งเล่นเกมได้ ฟังเพลงเลิศ!
ถ้าลำโพงคอมตัวเก่าที่ได้มาตอนประกอบคอมหรือซื้อมาใช้ไปก่อนเปิดเพลงฟังแล้วไม่ถูกใจ เสียงแห้งไม่ถูกหูล่ะก็ แนะนำให้หาลำโพงคอมเสียงดีสักชุดไปใช้น่าจะดูหนังฟังเพลงได้มีความสุขขึ้น ซึ่งทั้ง 7 รุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำได้แก่
- Audio Technica AT-SP95 (1,288 บาท)
- CREATIVE Pebble Plus 2.1 (1,450 บาท)
- Edifier R1380DB (4,290 บาท)
- PreSonus Eris E 3.5 BT (6,490 บาท)
- Klipsch ProMedia 2.1 BT (9,900 บาท)
- Harman Kardon Soundstick 4 (10,999 บาท)
- Klipsch The Fives Powered (27,999 บาท)
1. Audio Technica AT-SP95 (1,288 บาท)
Audio Technica AT-SP95 รุ่นนี้นอกจากราคาไม่แพงแล้วเสียงยังดีไว้ใจได้ด้วยชื่อชั้นแบรนด์ผู้ผลิตหูฟังและไมโครโฟนชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เหมาะจะเอามาต่อคอมพิวเตอร์หรือทีวีสุดๆ แค่ต่อสาย USB และ AUX อย่างละเส้นก็พอ แถมทาง Audio Technica ยังฝัง Amplifier มาเสริมให้เสียงจากไดรเวอร์ขนาด 52 มม. ขับออกมาดีขึ้น แถมขนาดยังเล็กไม่กินพื้นที่มาก ถ้าใครหาลำโพงคอมเสียงดีประหยัดเงินใช้พื้นที่น้อยๆ ก็เริ่มจากตัวนี้ก่อนได้เลย
กลับกัน AT-SP95 เป็นลำโพงแบบจบในตัว ไม่มีพอร์ตอัพเกรดต่ออุปกรณ์เสริมอย่าง Subwoofer หรือ DAC จึงเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปไม่เหมาะกับคนเล่นเครื่องเสียงนัก ซึ่งถ้าโจทย์คือซื้อมาใช้เลยก็ไม่มีปัญหาแถมต่อใช้งานง่ายด้วย
สเปคของ Audio Technica AT-SP95
ขนาด (สูง x กว้าง x ลึก) น้ำหนัก | – ซ้าย 300 กรัม / ขวา 335 กรัม |
ค่าตอบสนองความถี่ กำลังขับ | – 2+2 วัตต์ RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB, AUX x 2 |
ชุดควบคุม | ลูกบิดปรับเสียงและปิดลำโพง |
Price | 1,288 บาท (soundproofbros Shopee) |
2. CREATIVE Pebble Plus 2.1 (1,450 บาท)
ถ้าเพิ่มเงินอีกนิดมี CREATIVE Pebble Plus 2.1 ให้เลือกด้วย ซึ่งตัว Plus จะเพิ่มตัว Subwoofer แบบยิงเสียงอัดลงพื้นเพิ่มมา ได้เสียง 2.1 Ch เสริมเบสให้หนักแน่นขึ้น ทำให้ดูหนังฟังเพลงได้อรรถรสยิ่งกว่าเดิมและมีสวิตช์ปรับ High Gain ติดมาให้ใช้ นอกจากนี้ดอกลำโพงของ CREATIVE Pebble จะทำมุม 45 องศา ให้เสียงจากดอกลำโพง 2 นิ้ว ตรงไปยังหูของผู้ฟังได้ทันทีแถมเวลาใช้งานแค่ต่อ AUX เข้าคอมพิวเตอร์และเสียบปลั๊กเพิ่มก็ฟังเพลงได้ทันที
ข้อสังเกตของ CREATIVE Pebble Plus อย่างเวลาใช้งานต้องต่ออแดปเตอร์แยกเท่านั้นถึงใช้งานได้ เพราะพอร์ต USB ของคอมจ่ายไฟไม่พอใช้ และตัว Subwoofer ก็เป็นอุปกรณ์เฉพาะรุ่น Plus เท่านั้น เอาไปต่อกับตัว V2 ไม่ได้ เป็นแบบจบในตัวของมันเท่านั้นเอาไปต่อเพิ่มเติมอะไรมากไม่ได้
สเปคของ CREATIVE Pebble Plus 2.1
ขนาด (สูง x กว้าง x ลึก) น้ำหนัก | ข้างละ 122 x 116 x 115 มม. / Subwoofer 150 x 195 x 202 มม. ซ้าย 300 กรัม, ขวา 340 กรัม, Subwoofer 1.05 กก. |
ค่าตอบสนองความถี่ กำลังขับ | 50Hz~20kHz 4~8 วัตต์ RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB, Line in, RCA |
ชุดควบคุม | ลูกบิดหน้าลำโพง ใช้เพิ่มลดเสียงหรือปิดลำโพง |
Price | 1,450 บาท (CREATIVE Shopee Mall) |
3. Edifier R1380DB (4,290 บาท)
แบรนด์ขวัญใจคนรักเสียงเพลงราคาคุ้มค่าและเนื้อเสียงน่าประทับใจอย่าง Edifier มี Edifier R1380DB ซึ่งเป็นรุ่นอัพเกรดจาก R1280DBs หน้าตาเป็นลำโพง Book Shelf ฝัง Class-D Amplifier มาให้ในตัวและชิป DSP เสริมคุณภาพเสียงให้ดีขึ้น ตัวลำโพงแต่ละข้างมีไดรเวอร์ดอก 4 นิ้ว กับไดอะแฟรมผ้าขนาด 1 นิ้ว ติดมาให้ขับเสียงได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้นแถมมีพอร์ตเอาไว้ต่ออุปกรณ์เสริมอย่าง DAC, Subwoofer แยกได้ แถมรองรับ Bluetooth 5.1 เผื่อจะต่อสมาร์ทโฟนฟังเพลงก็ได้ นอกจากนี้ยังมีลำโพงควบคุมแถมมาให้อีกด้วย
ส่วนตัวผู้เขียนเคยฟังเพลงจาก Edifier R1280DBs มาก่อนแล้วค่อนข้างชอบมากและนับเป็นลำโพงคอมเสียงดีราคาเป็นมิตรกระเป๋าเงินได้อย่างเต็มปาก เสียงเบสนุ่มหนักแน่นและเสียงกลางสูงก็ค่อนข้างใสและเคลียร์ดี ฟังเพลงได้หลากหลายแนวแถมเดิมๆ ก็มีชิป DSP เอาไว้แต่งเสียงให้น่าฟังอยู่แล้ว ถ้าต่อ DAC กับ Subwoofer เข้าไปอีกสักชุดจะยิ่งดีขึ้น
สเปคของ Edifier R1380DB
ขนาด (สูง x กว้าง x ลึก) น้ำหนัก | ข้างละ 152 x 200 x 241 มม. รวม 5.53 กิโลกรัม |
ค่าตอบสนองความถี่ กำลังขับ | 55Hz~20kHz 42 วัตต์ RMS (21+21 วัตต์) |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Line In, Optical, Coaxial, Bluetooth 5.1 |
ชุดควบคุม | ลูกบิดปรับ Volume / Bass / Treble, รีโมต |
Price | 4,290 บาท (5decibel Shopee Mall) |
4. PreSonus Eris E 3.5 BT (6,490 บาท)
PreSonus Eris E 3.5 BT เป็นชุดลำโพง Powered Amp คุณภาพสูงระดับ Studio ซึ่งนอกจากใช้งานทั่วไปแล้วก็เหมาะกับงานมอนิเตอร์เสียงในสตูดิโอหรือเช็คเสียงคลิปตอนเรนเดอร์เสร็จแล้วได้ด้วย ด้านหลังลำโพงจะรวมชุดปรับจูนเสียงต่ำสูงและเบสได้อย่างละเอียด แถมยังมีแจ็ค TRS Balanced ติดมาให้ใช้ต่ออุปกรณ์เครื่องเสียงเพิ่มได้ตามต้องการ ถ้าจะต่อหูฟังก็มีช่อง AUX In, Headphone in ด้านหน้าลำโพงให้ใช้และยังต่ออุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มได้แถมเชื่อมต่อ Bluetooth ได้อีก เรียกว่าครบเครื่องทุกโจทย์การใช้งานทุกระดับตั้งแต่ผู้ใช้ทั่วไปจนถึงนักทำเพลงก็เหมาะ และยังได้โปรแกรมปรับจูนเสียงทำเพลงอย่าง PreSonus Studio One แถมมาให้และราคาก็ไม่แพงเกินไปด้วย
แต่ถึง PreSonus Eris E 3.5 BT จะมีฟีเจอร์ให้ใช้ล้นตัว ต่ออุปกรณ์เสริมได้เยอะและมี Bluetooth ในตัวด้วยก็จริง แต่ก็ต้องปรับจูนเสียง High, Low ให้เหมาะสมด้วย แนะนำให้อ่านคู่มือประกอบการเซ็ตตั้งค่าคู่กันไป ให้ดีควรมีเพื่อนที่มีความรู้เรื่องเครื่องเสียงมาช่วยเซ็ตอัพด้วยจะดีสุด
สเปคของ PreSonus Eris E 3.5 BT
ขนาด (สูง x กว้าง x ลึก) น้ำหนัก | ข้างละ 210 x 141 x 162 มม. ข้างละ 2.9 กิโลกรัม รวม 5.8 กิโลกรัม |
ค่าตอบสนองความถี่ กำลังขับ | 80Hz~20kHz 50 วัตต์ RMS (25+25 วัตต์) |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Stereo 1/8″ x 1, Balanced 1/4″ x 2, Unbalanced RCA x 2 Bluetooth 5.0 |
ชุดควบคุม | ลูกบิดปรับ High, Low |
Price | 6,490 บาท (Musicarm Shopee) |
5. Klipsch ProMedia 2.1 BT (9,900 บาท)
หนึ่งในแบรนด์ที่สายฟังเพลงไว้ใจอย่าง Klipsch มี Klipsch ProMedia 2.1 BT เป็นลำโพงคอมเสียงดีพร้อม MicroTractrix horns อันเป็นเอกลักษณ์ติดตั้งมาให้ ได้เสียง 2.1 แชนแนล ให้กำลังขับเสียงดีมีมิติและสมจริงที่สุด โดยตัวลำโพงเซ็ตนี้จะเป็นลำโพงคู่หลักและ Subwoofer เสริมอีกตัว ให้กำลังขับอลังการ 100 วัตต์ เร่งเสียงได้ดังสุด 110dB แถมเชื่อมต่อได้ง่าย ทั้งมีสายด้วย AUX หรือ Bluetooth ก็ได้ จึงเชื่อมต่อกับคอม, แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนได้ตามต้องการ
อย่างไรก็ตาม เจ้า Klipsch ProMedia 2.1 BT ตัวนี้เป็นเทคโนโลยีเก่าตั้งแต่ปี 2016 แล้ว แถมยังเป็น Bluetooth 2.0 เท่านั้น ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องอายุความสดใหม่ก็ไม่มีปัญหา และยังเชื่อมต่อ Preamp เพิ่มได้ผ่านสาย VGA TSL แต่ไม่หลากหลายเท่ากับลำโพงรุ่นใหม่ซึ่งมี Coaxial, Optical ฯลฯ ติดมาให้
สเปคของ Klipsch ProMedia 2.1 BT
ขนาด (สูง x กว้าง x ลึก) น้ำหนัก | ลำโพงข้างละ 21.59 x 10.67 x 14.4 มม. Subwoofer ขนาด 241 x 249 x 259 มม. ลำโพงข้างละ 0.95 กิโลกรัม / Subwoofer 5 กิโลกรัม |
ค่าตอบสนองความถี่ กำลังขับ | 35Hz~22kHz 100 วัตต์ RMS (200 วัตต์ Peak, สูงสุด 260 วัตต์ Peak ระยะสั้น) |
พอร์ตเชื่อมต่อ | AUX, Bluetooth 2.0, VGA TSL |
ชุดควบคุม | ลูกบิดปรับ Volume, Subwoofer |
Price | 9,900 บาท (LCDTVThailand Shopee) |
6. Harman Kardon Soundstick 4 (10,999 บาท)
ถ้าไปเดินห้างสรรพสินค้าบ่อยๆ แล้วผ่านโซนขายเครื่องเสียงเมื่อไหร่ต้องเห็นเจ้าลำโพงใส Harman Kardon Soundstick 4 ตัวนี้ผ่านตากันอย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากหน้าตาจะสวยโดนใจคนชอบแต่งห้องจัดโต๊ะคอมแล้ว เรื่องเสียงเรียกว่าสมค่าตัวทั้งเบสหนักแน่นแรงปะทะเยอะเป็นลูกและเสียงใสเคลียร์ฟังใสสบายหูสมราคาระดับพรีเมี่ยม และกำลังขับสุดอลังการ 140 วัตต์ ดังสนั่นทั้งบ้านและห้องนั่งเล่นแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตัวลำโพงก็เป็นระบบปิดเช่นกัน เชื่อมต่อได้เฉพาะระบบ Bluetooth อย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีพอร์ตเชื่อมต่ออื่นๆ เลยแม้แต่ช่องเดียว จึงเหมาะกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเป็นหลัก ถ้าจะต่อกับพีซีต้องมี Wi-Fi Card หรือ USB Bluetooth ถึงจะใช้งานได้ และถ้าใครชอบเล่นเกมผ่านลำโพงด้วยอาจเจอปัญหาเรื่องเสียงดีเลย์ได้
สเปคของ Harman Kardon Soundstick 4
ขนาด (สูง x กว้าง x ลึก) น้ำหนัก | ข้างละ 271 x 84 x 84 มม. / Subwoofer ขนาด 231 x 276 x 231 มม. 4.4 กิโลกรัม |
ค่าตอบสนองความถี่ กำลังขับ | 40Hz~20kHz 140 วัตต์ RMS |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Bluetooth 4.2 |
ชุดควบคุม | ปุ่มควบคุมบนตัวลำโพง |
Price | 10,999 บาท (kumagadget Shopee) |
7. Klipsch The Fives Powered (27,999 บาท)
สุดท้ายลำโพงคอมเสียงดีราคาพรีเมี่ยมแต่ใช้งานได้ทั้งแบบ Active ได้ด้วยตัวลำโพงเองหรือต่อแบบ Passive ก็ได้ คือ Klipsch The Fives Powered ซึ่งเป็นลำโพง Bookshelf ซึ่งตัวลำโพงดีไซน์ตู้เป็นแบบ Bass-Reflex ให้เสียงดีกำลังขับมหาศาล 160 วัตต์แล้วพีคได้ 320 วัตต์ แถมเชื่อมต่อแบบมีสายก็ได้เพราะมีพอร์ตเชื่อมต่อหลากหลาย ให้ดีสุดแนะนำเป็นสาย HDMI ARC หรือไร้สายด้วย Bluetooth ก็ได้ ตัวดอกลำโพงมี Woofer ทรงโคนและทวีตเตอร์ไทเทเนียมทรงโดม จะเอาไว้ต่อคอมพิวเตอร์หรือเล่นกับเครื่องเสียงก็ได้
อย่างไรก็ตาม ตัว The Fives Powered ยังราคาสูงมากอยู่และทางบริษัทก็เลิกผลิตแล้วแต่ยังหาซื้อได้ แต่เพราะเป็นลำโพง Hi-Fi ราคาก็ยังแข็งมากจึงต้องมีทุนและควรหา Subwoofer, DAC, สำรองไฟแบบ Pure Sine Wave และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เผื่อเอาไว้ถึงจะได้รับประสบการณ์ตอนฟังเพลงที่ดีสุด
สเปคของ Klipsch The Fives Powered
ขนาด (สูง x กว้าง x ลึก) น้ำหนัก | ข้างละ 505 x 431 x 335 มม. รวม 13 กิโลกรัม |
ค่าตอบสนองความถี่ กำลังขับ | 50Hz~25kHz 160 วัตต์ RMS (320 วัตต์ Peak) |
พอร์ตเชื่อมต่อ | HDMI, USB-B, USB-A, RCA Input, RCA Output, AUX, Proprietary Input, Proprietary Output, Bluetooth |
ชุดควบคุม | ลูกบิดปรับเสียงและเปลี่ยนโหมดการเชื่อมต่อ, รีโมต |
Price | 27,999 บาท (hificenterthailand Shopee) |
สำหรับลำโพงคอมเสียงดี นอกจากรุ่นสำเร็จรูปพร้อมใช้จากโรงงานราคาหลักพันบาทต้นแล้ว ยังมีลำโพงเพื่อคนรักเสียงเพลงหรือ Audiophile ให้เลือกด้วยแต่ก็ต้องพึ่งอุปกรณ์เสียงอีกมากมายไม่ว่าจะเรื่องสายเชื่อมต่อ, อุปกรณ์, ไฟล์เพลงนามสกุลเสียงต่างๆ ซึ่งขอยกยอดไว้ในฐานที่เข้าใจ แต่ในส่วนลำโพงคอมแบบมีพอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมเพิ่มได้ ก็อยากแนะนำให้ลงทุนอีกนิดเติม DAC ปรับจูนเสียงดีๆ กับตัว Subwoofer เสริมเบสอีกหน่อย รับรองว่าจะอยากนั่งฟังเพลงอยู่หน้าคอมแทบทั้งวันแน่